วันเสาร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เคล็ด(ไม่) ลับ...สู่การเกษียณอย่างมั่งคั่ง

การมีอิสรภาพทางการเงินใน ขณะที่ยังมีสุขภาพที่แข็งแรงนั้น นับเป็นชีวิตที่น่าปรารถนาเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากคุณจะมีความมั่นคงทางการเงินจนไม่จำเป็นต้องทำงานหาเงินเพื่อ เลี้ยงชีพอีกต่อไป คุณยังมีเวลาทำในสิ่งที่รักหรือต้องการ ซึ่งนั่นก็ถือว่าเข้าข่าย “เกษียณ” ได้เช่นกัน แต่การเกษียณอายุก่อน 60 ปี และมีความมั่งคั่งทางการเงินนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย คุณต้องมีการวางแผนทางการเงินที่ดี ลองมาดูเคล็ดลับง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณมีความมั่งคั่งตอนเกษียณ

    * เริ่มออมอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ตอนอายุน้อยๆ โดยในช่วงแรกๆ อาจจะออมเงินประมาณ 10% ของราย ได้ แต่เมื่อหน้าที่การงานมีความมั่นคงมากขึ้น รายได้มากขึ้น ก็ควรจะเพิ่มสัดส่วนการออมให้มากขึ้น

    * รู้จัก เลือกลงทุน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ เช่น พันธบัตร หุ้นกู้ หุ้นสามัญ ฯลฯ โดยคำนึงถึงผลตอบแทนและความเสี่ยงที่ยอมรับได้

    * ฉลาดซื้อ รู้จักเลือกซื้อเฉพาะสิ่งที่จำเป็น คุ้มค่า และคุ้มประโยชน์ใช้งาน

    * ฉลาดใช้ รู้จักใช้จ่ายอย่างประหยัด รักษาสิ่งของต่างๆ ให้อยู่ในสภาพที่เหมาะกับการใช้งานได้นานๆ รวมถึงการใช้ชีวิตอย่างเหมาะสม สุขกาย สุขใจ ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยอีกด้วย                         


การเกษียณ จะไม่เป็นเรื่องที่น่าหนักใจอีกต่อไป หากเรามีวินัยในการออมเงินอย่างถูกวิธีและทันท่วงที คุณสามารถช่วยให้ชีวิตหลังการเกษียณมีค่ายิ่งขึ้น ด้วยการเริ่มต้นออมตั้งแต่วันนี้ ในช่วงที่ยังมีทั้งแรงกาย และแรงใจ เพื่อชีวิตยามเกษียณของคุณจะเต็มไปด้วยความสุข ตามที่คาดหวังไว้ในวันหน้า
วัยเกษียณเป็นช่วงวัยแห่งความสุข หลังจากผ่านช่วงเวลาการทำงานมาอย่างหนัก ถึงเวลาแล้ว...ที่จะต้องวางแผนชีวิตให้กับตนเองในบั้นปลายชีวิต ทั้งเงินไว้ใช้ในการดำเนินชีวิต ค่ารักษาพยาบาล ค่ากิจกรรมงานอดิเรก หรือสำหรับท่องเที่ยว และเงินไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน การก้าวไปสู่เป้าหมายของชีวิตที่วางไว้ไม่ใช่เรื่องยากหากรู้จักตั้งเป้า หมายของการใช้เงินเพื่อเริ่มต้นชีวิตวัยเกษียณอย่างสบาย
  
   คุณต้องการที่จะเกษียณอายุการทำงานเมื่อไร…..จะใช้ชีวิตหลังเกษียณอายุแบบ ไหน…..และต้องการ มีเงินสำหรับใช้จ่ายหลังเกษียณอายุประมาณเดือนละเท่าใด

เกษียณอายุ อย่างมั่นใจ ........ กับ เมืองไทย รีไทร์เมนท์ เซฟเวอร์
 
ชีวิตหลังวัยเกษียณ จะมีความสุขมากเช่นไร มอบ รางวัลเป็นหลักประกันให้กับชีวิต แต่งแต้มสีสันวัยเกษียณของคุณ
 
ติดต่อ ที่ปรึษาเมืองไทยประกันชีวิต
คุณ ณพล ธณัชพลังกร
Email:mtl.adviser@hotmail.com 
Email:mtl.adviser@gmail.com 
MSN:mtl.adviser@hotmail.com 
Tel:082-188-568-3
 บริการให้ รายละเอียด แบบประกัน ถึงที่ 4 จังหวัด
เมืองไทย ประกันชีวิต เชียงราย
เมืองไทย ประกันชีวิต เชียงใหม่
เมืองไทย ประกันชีวิต ลำพูน
เมือง ไทย ประกันชีวิตร ลำปาง

เคล็ดไม่ลับ กับการออม

ในวัยหนุ่มสาวมักไม่ค่อยนึกถึงการวางแผนการเงินสำหรับอนาคตเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะเรื่องการเตรียมเงินออมไว้สำหรับตอนเกษียณอายุ เพราะอาจจะดูเป็นเรื่องไกลตัวมาก หนุ่มสาวส่วนใหญ่จึงมักจะบริหารจัดการเฉพาะค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในปัจจุบัน โดยหารู้ไม่ว่า... ยิ่งเริ่มออมช้าเท่าใด ยิ่งทำให้ยอดเงินออมในอนาคตลดลงมากขึ้นเท่านั้น เอาล่ะ... ลองมาดูเคล็ด (ไม่) ลับ เกี่ยวกับการออมกัน

กำหนด เป้าหมายในการออม
    ก่อนที่จะออมคุณควรกำหนดเป้าหมายว่าออมเงิน เท่าใดถึงจะพอดี และเพียงพอที่จะดำเนินชีวิตได้อย่างสบายๆ ในช่วงหลังเกษียณ เพราะถ้าออมมากเกินไป
ก็อาจจะเป็นการเบียดเบียนตนเอง ทำให้ต้องใช้ชีวิตอย่างกระเบียดกระเสียรในปัจจุบัน แต่ถ้าออมน้อยเกินไป เมื่อถึงเวลาที่ต้องการใช้เงิน ก็อาจจะมีเงินไม่พอใช้

เริ่ม ออมอย่างสม่ำเสมอ    
ในจำนวนเงินที่ไม่เกินความสามารถของตนเอง โดยในช่วงแรกๆ ที่มีรายได้ไม่มากนัก คุณอาจจะออมเงินประมาณ 10% ของรายได้ แต่เมื่อหน้าที่การงานมีความมั่นคงมากขึ้น รายได้มากขึ้น ก็อาจจะเพิ่มสัดส่วนการออมให้มากขึ้

แบ่ง เงินไปลงทุน
ก็อาจจะเป็นการเบียดเบียนตนเอง ทำให้ต้องใช้ชีวิตอย่างกระเบียดกระเสียรในปัจจุบัน แต่ถ้าออมน้อยเกินไป เมื่อถึงเวลาที่ต้องการใช้เงิน ก็อาจจะมีเงินไม่พอใช้     เงินเฟ้อเป็นตัวบั่นทอนให้เงินออมของคุณด้อย ค่าลง กล่าวคือ หากวันนี้คุณมีค่าครองชีพเดือนละ 10,000 บาท หรือปีละ 120,000 บาท ในอีก 20 ปีข้างหน้า หากเงินเฟ้อปีละ 5% ค่าครองชีพของคุณจะเพิ่มเป็นเดือนละ 26,500 บาท หรือปีละ 318,000 บาทเลยทีเดียว ดังนั้น เพื่อให้ได้เป้าหมายเงินออมตามที่ต้องการ คุณอาจต้องแบ่งเงินไปลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยสูงกว่าอัตราเงิน เฟ้อ

ขอบคุณที่มา http://www.tsi-thailand.org

กลยุทธ์ออมเงินแบบลบ 10 บวก 10

เมื่อคุณมีเป้าหมายในชีวิตและเป้าหมายในการออมเงินแล้ว คุณอาจสงสัยว่า... จะออมเงินอย่างไร ให้มีเงินออมตามเป้าหมายที่วางไว้ ในเรื่องนี้มีคำตอบง่ายๆ แต่มีประสิทธิภาพในการออมสูงมากอีกวิธีหนึ่งก็คือ  “กลยุทธ์ ออมเงินแบบลบ 10 บวก 10”

กลยุทธ์ออมเงินแบบลบ 10
เมื่อหาเงินมาได้เท่าไรให้หักไว้เป็นเงินออมก่อนที่จะเอาไปใช้จ่ายทันที 10% เช่น หากคุณมีเงินเดือน 10,000 บาท ก็หักไว้เป็นเงินออมก่อนเลย 1,000 บาท การออมเงินลักษณะนี้เหมาะกับคนที่มีวินัยทางการเงินค่อนข้างดี

กลยุทธ์ออมเงินแบบบวก 10
ใช้เงินไปเท่าไรต้องเก็บเงินเพิ่มให้ได้ 10% ของเงินที่ใช้ไป เช่น ซื้อของไป 2,000 บาท ก็ต้องออมเงินเพิ่มขึ้นอีก 200 บาทไปพร้อมๆ กัน วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่มีนิสัยชอบจับจ่ายใช้สอย เพราะจะช่วยเตือนความจำให้เก็บเงินทุกครั้งที่ใช้จ่าย
    อย่าลืมว่า... เมื่อคุณคิดที่จะออมแล้ว คุณจะต้องลงมือเก็บออมโดยไม่มีเงื่อนไข ไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง และต้องวางแผนการใช้จ่ายเงินอย่างสม่ำเสมอ โดยการจดบันทึกหรือทำบัญชีายรับรายจ่ายเพื่อตรวจสอบพฤติกรรมการใช้จ่ายของตน เอง

ขอบคุณที่มา http://www.tsi-thailand.org 

ทำไมต้องวางแผนทางการเงิน

Image เพราะ “เงิน” มีบทบาทสำคัญ ไม่ได้เป็นเพียงสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน หรือเป็นเครื่องวัดมูลค่าของสิ่งของต่างๆ เท่านั้น แต่เงินยังสามารถเก็บสะสมเพื่อเพิ่มมูลค่าในอนาคตได้อีกด้วย ซึ่งการ วางแผนการเงินส่วนบุคคล (Personal Financial Planning) อย่างเหมาะสม จะช่วยให้เราสามารถจัดการกับเรื่องเงินๆ ทองๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

        และเพราะ "เงิน” เข้า มามีส่วนช่วยอำนวยความสะดวกในการหาซื้อสิ่งของจำเป็นสำหรับใช้ในชีวิตประจำ วัน เราจึงควรให้ความสำคัญกับการวางแผนการเงินเหมือนเป็นกิจกรรมหนึ่งในชีวิต ประจำวัน เพื่อให้มีชีวิตที่ดีและมีความสุขในบั้นปลายชีวิต

        อาจเป็นเพราะคนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับ “การใช้เงิน” ก่อน ที่จะ “หาเงินได้” โดยพ่อแม่ ผู้ปกครอง ให้เงินเราใช้ตั้งแต่เรายังเป็นเด็ก เราจึงมีความสุขจากการใช้เงินทั้งที่ยังหาเงินไม่ได้ ต่อมาเมื่อเราหาเงินได้เองการจากทำงาน ปัญหาทางการเงินจึงเกิดขึ้น เพราะคิดว่าการหาเงินได้มากขึ้น จะสร้างความสุข ความสบายในชีวิตได้มากขึ้น แต่กลายเป็นว่าเงินที่หาได้เพิ่มขึ้น กลับไม่เคยเพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเลย
        การไม่รู้จักบริหารจัดการค่าใช้จ่ายของตนเองให้เหมาะสมกับเงินที่หามาได้ การใช้เงินโดยไม่มีเป้าหมายทางการเงินอย่างเหมาะสม การไม่รู้จักทางเลือกในการรักษาและเพิ่มมูลค่าของเงิน รวมทั้งความไม่มีวินัยทางการเงิน อาจทำให้เราต้องทำงานหนักไปตลอดทั้งชีวิตเพียงเพื่อให้มีเงินใช้จ่ายเฉพาะ หน้า

        การวางแผนการเงินเป็นทักษะชีวิตที่จำเป็นสำหรับทุกคน เราควรมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการวางแผนการเงินของตนเองอย่างรอบด้าน ทั้งในการหาเงิน การใช้เงิน การเก็บรักษาและการเพิ่มมูลค่าเงินอย่างชาญฉลาด ทีสำคัญเราต้องลงมือปฏิบัติ เพื่อสร้างนิสัยทางการเงินที่ดี ...ใคร อยากสบายทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า คงต้องเริ่มวางแผนการเงินตั้งแต่เดี๋ยวนี้...

ขอบคุณที่มา http://www.tsi-thailand.org

ลงทุนกรมธรรม์ประกันชีวิต


ทางเลือกในการลงทุนมีให้เลือกหลายทาง การซื้อประกันชีวิตเป็นอีกทางเลือกที่ผู้
ลงทุน น่าพิจารณา และเป็นอีกทางที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถประหยัดภาษีได้
นอกเหนือจากการลงทุนในกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพและกองทุนหุ้นระยะยาว เพื่อนหลายคนที่
เป็นแฟนพันธ์แท้ของการประหยัดภาษี จะถามว่าจะเลือกซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบไหนดี

โดยทั่วไปกรมธรรม์ประกันชีวิตจะประกอบด้วย ส่วนของการประกันชีวิต ซึ่งรวมถึงการออมเงิน
ด้วย และส่วนเสริมคือการประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ และอื่นๆ ในกรมธรรม์มักจะระบุค่า
เบี้ยประกันแยกไว้ให้เห็นเป็นส่วนๆ ในส่วนของประกันชีวิต สามารถแบ่งย่อยออกเป็นสองส่วน
คือการออมและการประกันชีวิต ซึ่งในกรมธรรม์มักจะไม่แยกให้เห็น โดยมากหากมีลักษณะ
ของการออมมากเบี้ยประกันจะยิ่งสูงขึ้นเมื่อเทียบกับวงเงินเอาประกันที่เท่า กัน ก่อนที่จะ
กล่าวถึงวิธีการเลือกซื้อกรมธรรม์ขอทำความเข้าใจศัพท์ของการประกันชีวิตบาง คำเสียก่อน

วงเงินเอาประกัน (Sum insured) หมายถึงจำนวนเงินที่ผู้เอาประกันจะได้รับในกรณีเสีย ชีวิต
หรือเมื่อกรมธรรม์ครบกำหนด วงเงินเอาประกันอาจคงที่ตลอดอายุกรมธรรม์ หรือเพิ่มขึ้นตาม
ระยะเวลาตามที่กำหนดในกรมธรรม์

เบี้ยประกัน (Premium) หมายถึงค่าเบี้ยประกันที่ผู้ซื้อจะต้องชำระให้แก่บริษัทประกันภัยเป็น
รายเดือน ไตรมาส ราย 6 เดือนหรือรายปี

เงินปันผล มี 2 ประเภทคือ ประเภทผูกพันว่าจะต้องจ่ายให้แน่นอน และประเภทที่จะจ่ายตาม
ผลประกอบการของบริษัทประกันชีวิต ซึ่งมักจะขึ้นกับดุลยพินิจของบริษัทว่าจะจ่ายให้
เท่าไร มูลค่าเวนคืนเงินสด (Cash value) หมายถึงจำนวนเงินที่ผู้ถือกรมธรรม์จะได้รับ เมื่อผู้
ถือกรมธรรม์ต้องการเวนคืน (ยกเลิก)กรมธรรม์